Tuesday, October 28, 2008

พันธมิตรฯ นัดยื่นหนังสือสถานทูตผู้ดี ลากคอ แม้ว มาติดคุก

“แกนนำพันธมิตรฯ” ไม่บ้าจี้เดินตามข้อเสนอนักวิชาการจัดเสวนากู้วิกฤตการเมืองนัดตบเท้า ดาวกระจายสถานทูตอังกฤษ-เอ็มโพเรียม จี้ผู้ดีส่งตัว “ทักษิณ” กลับมาติดคุก พฤหัสบดีนี้ พร้อมจัดทีมทนายพิสูจน์คดี ตร.วิสามัญฯ “การ์ดอาสา” ก่อนยัดเยียดข้อหายาเสพติด

วันนี้ (28 ต.ค.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมแถลงข่าวที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงแนวทางการเจรจา 4 ฝ่าย ประกอบด้วย กลุ่ม นปช. พันธมิตรฯ ฝ่ายค้าน และรัฐบาลว่า ถ้ามีใครมาเจรจาตอนนี้ก็ต้องเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของพันธมิตรฯ เท่านั้น ซึ่งการเจรจาครั้งนี้กลุ่ม นปช.ไม่เกี่ยวกัน เพราะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับวัตถุประสงค์ของพันธมิตรฯ โดยในขณะนี้น่าจะเป็นรัฐบาลมากกว่าที่จะเป็นผู้ที่มาเจรจากับพันธมิตรฯ ส่วนที่การเสวนาที่นักวิชาการเสนอมา ตนคิดว่าถ้ามีการเสวนาแล้วเกิดผล พันธมิตรฯ ก็คงไม่ต้องมาชุมนุมเช่นนี้

“ถ้ามีการเสวนาแล้วมันแก้วิกฤตได้ เราจะมาบ้ามาโง่ทำไม และมากินมานอนอยู่อย่างนี้ทำไม หากการเสวนาได้ผล เราพร้อมทำทันที” พล.ต.จำลอง กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันพฤหัสบดีที่ 30 ต.ค. ทางพันธมิตรฯ จะเคลื่อนขบวนตามยุทธศาสตร์ดาวกระจายเพื่อแจกซีดีตำรวจทำร้ายประชาชน เวลา 10.00 น. ตั้งแต่สถานทูตอังกฤษ ไปทางถนนสุขุมวิท จนถึงห้างดิเอ็มโพเรียม โดยจะไปยื่นหนังสือที่สถานทูตอังกฤษ เพื่อขอให้ประเทศอังกฤษเร่งพิจารณาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมายังประเทศไทย

ส่วนจะมีการเปิดเส้นทางการจราจรรอบบริเวณทำเนียบรัฐบาลหรือไม่นั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตนต้องพิจารณให้รอบคอบก่อนเนื่องจากพันธมิตรฯ มีความจำเป็นที่ต้องชุมนุมต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนก็เห็นใจการจราจรเพราะทำให้รถติด แต่เมื่อเทียบกันแล้วกับการแก้ไขปัญหาของวิกฤตชาติ เราต้องเลือกที่จะเสียสละ

ทั้งนี้ การชุมนุมของพันธมิตรฯ ผ่านมาถึง 150 วัน ซึ่งผู้ชุมนุมต้องอยู่ในทำเนียบรัฐบาลอย่างยากลำบาก ไม่ได้สุขสบายเหมือนอยู่ที่บ้าน แต่ที่ทำอย่างนี้ก็ทำเพื่อประเทศ

“หากพันธมิตรฯ มีการเปิดเส้นทางรอบทำเนียบรัฐบาลเมื่อเกิดปัญหา หรือมีการบุกรุกเข้ามาทำร้ายกลุ่มผู้ร่วมชุมนุม ถามว่าใครจะมาปกป้องและรับผิดชอบ เพราะฉะนั้น สังคมต้องยอมเสียสละเพื่อประเทศชาติ ถึงแม้การเดินทางมาเรียนของนักเรียนจะยากขึ้น แต่ก็เป็นการเสียสละที่งดงาม ซึ่งผู้ปกครอง ครูอาจารย์ ต้องเข้าใจ” พล.ต.จำลอง กล่าว และว่าหากมีการเปิดเส้นทางการจราจรแล้วมีผู้เข้ารับผิดชอบและดูแลความ ปลอดภัยให้กลุ่มผู้ชุมนุมอย่างจิงจัง ตนก็ยินดีให้ความร่วมมือและยอมเปิดเส้นทางเพื่อการจราจร

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม นายสมชาย ศรีประจักษ์ การ์ดอาสาพันธมิตรฯ ว่า ตำรวจได้กล่าวหาว่านายสมชายพกยาเสพติดจึงได้ทำการวิสามัญฯ ทั้งๆ ที่นายสมชายไม่ได้พกอาวุธแต่อย่างใด จึงแสดงให้เห็นว่าตำรวจใช้อำนาจที่ป่าเถื่อน ซึ่งเชื่อว่าเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ จึงต้องมีการพิสูจน์ในชั้นศาลให้ถึงที่สุด

พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมว่า นายสมชายจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีสิทธิทำการวิสามัญฯ ทำไมไม่มีการออกหมายจับก่อนเพื่อสอบสวนในชั้นศาล ขืนยังปล่อยเรื่องนี้ไป บ้านเมืองก็แย่แน่ ทางพันธมิตรฯ จึงไม่นิ่งนอนใจไม่ได้ จึงไปสอบถามกับประชาชนที่อยู่และรู้จักกับผู้ตาย

ขณะที่ นายพิภพ กล่าวว่า การวิสามัญฯ นายสมชายครั้งนี้เป็นการฆ่าคนที่มีส่วนร่วมกับพันธมิตรฯ ที่พร้อมที่จะตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และไม่ว่านายสมชายจะมียาเสพติดครอบครองหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ควรวิสามัญฯ เหมือนกันกรณีที่สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ ที่ได้สั่งฆ่าตัดตอนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวกับยาเสพติด

ทั้งนี้ ยังตั้งข้อสงสัยว่า การเสียชีวิตดังกล่าวเป็นเพราะนายสมชายมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ หรือไม่ เพราะเท่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามคุกคามและข่มขู่ผู้ที่ได้รับ บาดเจ็บจากเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.ที่โรงพยาบาล ทางพันธมิตรฯ จึงมอบหมายให้ทนายจัดการเรื่องการให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์ ดังกล่าว เพราะว่าให้ผู้บาดเจ็บไปให้ปากคำอาจจะเปลี่ยนเป็นผู้ต้องหาแทนได้ ดังนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติควรออกมาแถลงข่าวกับเรื่องนี้ให้ชัดเจน

No comments: