Wednesday, October 22, 2008

รพ.รามาเผยน้องโบว์ปอด-กระเพาะทะลุพบเขม่ารุนแรง

ราชินีพระราชทานเงินรักษาผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 แสน ร.พ.รามาสรุปยอดคนเจ็บ 76 ราย เสียชีวิต 2 ตร.ย้ำแก๊สน้ำตาไม่ทำให้ขาขาด

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล รศ.นพ. ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผอ.โรงพยาบาลรามาธิบดี รศ. สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ รองผอ.โรงพยาบาลรามาธิบดี พล.อ.ต. วิชาญ เปี้ยวนิ่ม นิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี รศ.นพ. วินัย วนานุกูล อาจารย์ ประจำศูนย์พิยา โรงพยาบาลรามาธิบดี ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจากสถานการณ์สลายการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา

รศ.นพ.ธันย์ กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานเงินเพิ่มเติมเพื่อใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยเพิ่มเติมอีกจำนวน 2 แสนบาทเป็น 3 แสนบาท ซึ่งทางโรงพยาบาลจะนำเงินดังกล่าวไปใช้ตามพระราชประสงค์ไว้อย่างดีที่สุด และจะถวายรายงานเพื่อทรงทราบเป็นระยะ

รศ.นพ.ธันย์ กล่าวว่า สรุปตัวเลขผู้ป่วยจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา มารับการรักษาในโรงพยาบาลรามาธิบดีแล้วจำนวน 76 ราย 2 รายเสียชีวิต มี ผู้ป่วยที่ถูกรับไว้รักษา 17 ราย ประชาชน 16 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 ราย โดยมีอาการบาดเจ็บ 5 ราย มีบาดแผลภายนอกแต่อาการไม่รุนแรง รอดูอาการ รอจำหน่ายเพื่อกลับบ้าน และ 12 รายได้รับการผ่าตัดเร่งด่วน 1 รายได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ลำคอ และมือ สูญเสียมือ ต้องเจาะคอเพื่อช่วยหายใจ ขณะนี้อยู่ในห้อง ICU 1 รายสูญเสียดวงตา 2 รายได้รับบาดเจ็บเสียขาช่วงล่าง 1 รายสูญเสียมือขวา 4 รายกระดูกหัก แผลติดต่อภายนอก 1 รายได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า และมีกระดูกบริเวณจมูกโหนกแก้มแตก มีปัญหาเรื่องการหายใจ 1 รายมีแผลลึกที่ขาขวาและ1 รายได้รับบาดเจ็บเข่าขวาฉีกขาด

พล.อ.ต. วิชาญ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทางนิติเวชศพของ น. ส. อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ (น้องโบว์) อายุ 25 ปี พบว่ามีบาดแผลขนาดใหญ่ที่หน้าอก แขนซ้าย เลือดออกในช่องเยื้อหุ้มปอด ปอดด้านซ้าย หัวใจ กระเพาะอาหารทะลุ ซึ่งเกิดจากการกระแทกจากของแข็ง มีลักษณะร้อนและมีความเร็วสูงอย่างรุนแรง ทำให้เสียชีวิตในระหว่างการนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งทางโรงพยาบาลเองมีความเสียใจที่ไม่สามารถช่วยน.ส.อังคณาได้

“เป็น ลักษณะแรงอัดจากภายนอกอย่างรวดเร็วเทียบได้กับตกลงมาจากตึก 3 ชั้น เป็นวัสดุของแข็ง เศษความร้อน ซึ่งดูจากอานุภาพแล้วไม่น่าจะเป็นการโดนยิงแก๊สน้ำตาใส่ เพราะดูจากบาดแผลแล้วใหญ่และลึกมาก อีกทั้งบริวเวณรอยแผลนั้นเราไม่พบสะเก็ดระเบิดแต่อย่างไร แต่พบเขม่าควันจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ได้ส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิสูจน์หาข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนอีกรายนั้นดูจากกะโหลกแล้วพบว่าได้ว่าเป็นผู้ชายอายุประมาณ 40-50 ปี ซึ่งขณะนี้ยังไม่สาเหตุการตายที่แน่นอนเพราะกำลังเก็บรวบรวมชิ้นส่วนร่างกาย ที่กระจายไปทั่วบริวเวณ พร้อมทั้งเก็บเศษฟันเพื่อตรวจ DNA เอาไว้เปรียบเทียบกับญาติเวลามารับศพ ทั้งนี้ที่บาดแผลพบเศษโลหะแข็ง ซึ่งจะส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิสูจน์ว่าชนิดไหน ” พล.อ.ต.วิชาญ กล่าว

พล.อ.ต.วิชาญ กล่าวอีกว่า สำหรับบาดแผลของผู้ป่วยหลายรายที่แขน ขาขาดนั้นเป็นไปได้ว่าจะโดนยิงแก๊สน้ำตา แต่ต้องในระยะประชิดเท่านั้น ซึ่งสารพิษแก๊สน้ำตาคือสารไตรครอไรด์ไนโตรมีเทน มีลักษณะเป็นฝุ่นทำให้แสบตา ล้างน้ำก็จายหายไป จะไม่สามารถทำอันตรายได้มาก

No comments: